ภูมิภาค
หนุ่มใหญ่ร้องสื่อโดนปิคอัพขยี้ขาหักรักษาครึ่งล้าน คู่กรณีไม่รับผิดชอบ คดีไม่คืบ
วันเสาร์ ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564, 18.58 น.
คลิกที่นี่
เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 12 ต.พยุห์ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ น.ส.ธนพร สีเหลือง อายุ 48 ปี ได้นำตัวนายเทพกร สีเหลือง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61/3 หมู่ 12 ต.พยุห์ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นน้องชาย เข้าร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ โดย น.ส.ธนพร เล่าว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ย.63 เวลาประมาณ 09.30 น.ขณะที่นายเทพกรกำลังเดินมาตามถนนบ้านหนองระโย – บ้านหนองไผ่ หมู่ 12 ต.พยุห์ เพื่อที่จะกลับบ้าน ปรากฏว่าได้มีนายสมชาย กันตรง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 10 ต.บุสูง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ ขับรถยนต์ปิคอัพ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ทะเบียน บก 8286 ศรีสะเกษ ได้ขับรถมาเบียดเฉี่ยวชนนายเทพกรขณะเดินอยู่ไหล่ทางด้านซ้าย ทำให้ได้รับบาดเจ็บขาข้างขวาหัก กระดูกแตกละเอียดหลายชิ้น หลังเกิดเหตุตนได้นำนายเทพกรส่งไปเข้ารักษาพยาบาลที่ รพ.พยุห์ และเนื่องจากอาการหนักมาก แพทย์ รพ.พยุห์ได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.ศรีสะเกษ
น.ส.ธนพร กล่าวต่อไปว่า ตนต้องดูแลนายเทพกร น้องชาย ซึ่งบาดเจ็บสาหัสและไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ รวมทั้งไม่สามารถประกอบอาชีพทำมาหากินได้นานกว่า 86 วันแล้ว โดยที่ไม่ได้รับการเหลียวแลแสดงความรับผิดชอบจากคู่กรณีที่เฉี่ยวชนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่อย่างใด นายเทพกรต้องพักรักษาตัวที่ รพ.ศรีสะเกษ โดยแพทย์ต้องทำการผ่าตัดใส่เหล็ก แต่ว่าขณะนี้อาการยังไม่สมบูรณ์ ทำให้ครอบครัวของนายเทพกรได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ตนได้ไปติดตามความคืบหน้าของคดีนี้กับ ร.ต.อ.ภักดี ทองอินทร์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.พยุห์ แต่ว่าคดียังไม่คืบหน้าแต่อย่างใด โดยพนักงานสอบสวนได้เรียกตัวคู่กรณีเพื่อให้มาเจรจาค่าเสียหายที่ สภ.พยุห์ รวม 2 ครั้ง แต่ว่าคู่กรณีไม่ยอมมาพบพนักงานสอบสวน โดยครั้งแรกอ้างว่ารถยนต์เสีย ไม่สามารถเดินทางมาได้ พอครั้งที่ 2 ก็อ้างว่านายเทพกรได้เซ็นยินยอมไม่ติดใจเอาความต่อกันแล้ว ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากว่าคู่กรณีนำเอาหนังสือมาให้เซ็นยินยอมนั้น นายเทพกรอยู่ในสภาวะสมองยังไม่ปกติสมบูรณ์ อีกทั้งเป็นการขัดต่อความเป็นจริง เนื่องจากว่านายเทพกรบาดเจ็บสาหัส ขาข้างขวาหัก กระดูกแตกละเอียด และจะมาลงบันทึกตกลงไม่ติดใจเอาความกันได้อย่างไร
นายเทพกร สีเหลือง อายุ 45 ปี กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนกำลังเดินกลับบ้าน คู่กรณีขับรถมาชนด้านหลัง ตนล้มลง ทำให้ล้อรถเหยียบทับขาข้างขวาหักกระดูกแตกละเอียด ตนไม่ได้เซ็นยินยอมว่าจะไม่ติดใจเอาความกับคู่กรณี เพราะว่าตนบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้จะไม่ติดใจเอาความได้อย่างไร ตนขอความเมตตาขอความช่วยเหลือจากทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องด้วย โดยตนรักษาตัวนานกว่า 3 เดือนแล้ว จะขอเรียกร้องค่าเสียหาย 500,000 บาทจากคู่กรณีที่ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บสาหัสในครั้งนี้
ทางด้าน ร.ต.อ.ภักดี ทองอินทร์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.พยุห์ ซึ่งเป็นร้อยเวรเจ้าของคดี ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ในวันเวลาที่เกิดเหตุคือ วันที่ 9 พ.ย.63 เวลาประมาณ 09.30 น.ไม่มีคู่กรณีอุบัติเหตุครั้งนี้มาแจ้งความแต่อย่างใด และเมื่อวันที่ 11 พ.ย.63 เวลา 11.11 น.นายสมชาย กันตรง อายุ 23 ปี และนายเทพกร สีเหลือง อายุ 45 ปี ได้มาพบกับตนเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย ต่อมาจากการสอบสวนจึงเชื่อว่าเหตุรถเฉี่ยวชนในครั้งนี้ประกอบกับคำให้การรับสารภาพของนายสมชาย กันตรง เชื่อว่าได้ขับรถโดยไม่ใช้ความระมัดระวังตามวิสัยและพฤติการณ์ ซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจะต้องมี แต่หาได้ใช้เพียงพอไม่ จึงได้รับเป็นเลขคดีจราจรที่ 64/63 ไว้ทำการสอบสวน ต่อมาได้ทำการเปรียบเทียบปรับนายสมชาย เป็นเงิน 400 บาท ตามบันทึกเปรียบเทียบปรับจราจรที่ 47/2653 ใบเสร็จรับเงินเล่มที่ 085724 เลขที่ 6
ร.ต.อ.ภักดี กล่าวต่อไปว่า ต่อมาตนพบว่า นายเทพกรได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก จึงได้เรียกตัวนายสมชายให้มาพบกับนายเทพกรและญาติพี่น้อง เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เรียกไปแล้ว 2 ครั้ง นายสมชายก็ไม่มาพบกับผู้เสียหายและพนักงานสอบสวน ดังนั้น เมื่อช่วงประมาณต้นเดือน ก.พ.63 ที่ผ่านมา ตนจึงได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายสมชาย กันตรง โดยดำเนินคดีในข้อหา ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งนายสมชายได้ให้การปฏิเสธ ตนจะได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อส่งฟ้องนายสมชาย กันตรง ไปยังอัยการ จ.ศรีสะเกษ ในช่วงประมาณต้นเดือน มี.ค.64 นี้ ซึ่งตนได้เร่งดำเนินคดีนี้และพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายอย่างเต็มที่ต่อไป
คลิกที่นี่