วันนี้ ( 18 มี.ค.64 ) นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทน ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยผลการสอบสวนโรค ผู้ติดเชื้อไข่แตกของ จ.ศรีสะเกษ และ จ.มุกดาหาร โดยทั้ง 2 จังหวัด ติดตามสอบสวนโรคได้อย่างรวดเร็ว ถือว่าทำได้ดีทั้งที่เป็นการพบผู้ติดเชื้อครั้งแรก
กรณีผู้ติดเชื้อใน จ.ศรีสะเกษ ไทม์ไลน์ของผู้ป่วย เพศหญิงอายุ 49 ปี อาชีพค้าขายผักในตลาดวันเดอร์ เขตบางแค กทม. โดยตรวจพบเชื้อใน จ.ศรีสะเกษ พบว่าเพื่อนที่ค้าขายอยู่แผงติดกันก็ติดเชื้อ โดยมีประวัติเดินทางออกจาก กทม.พร้อมกับสามี เมื่อวันที่ 8 มี.ค.64 ด้วยรถยนต์ส่วนตัว ไปยังบ้านพักใน จ.ศรีสะเกษ พักค้างคืนกับลูกชาย 2 คน ระหว่างพักอยู่ที่บ้านไปรับประทานอาหารร่วมกับญาติที่อยู่บ้านติดกัน ไปซื้อวัสดุก่อสร้าง
ต่อมาวันที่ 14 มี.ค.64 มีอาการเจ็บคอ ปวดศรีษะจึงไปตรวจหาเชื้อโควิดที่ รพ.ศรีสะเกษพร้อมกับสามี ลูกชาย และเพื่อนบ้านที่เป็นกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง โดยติดต่อทำบัตร จากนั้นไปเดินห้างสะดวกซื้อเพื่อซื้อของ แต่สวมหน้ากากตลอดเวลา และวันที่ 15 มี.ค.64 ไปร่วมงานทำบุญ 100 วัน แม่สามีและรับประทานอาหารร่วมกับญาติ จากนั้นเดินทางไป รพ.สต.รุ่งสว่างเพื่อขอตรวจโควิด จากนั้นเวลา 11.00 น. ทีมแพทย์ รพ.วังหินเดินทางไปเก็บตัวอย่างที่บ้านผู้ป่วย วันที่ 16 มี.ค.64 รายงานผลการตรวจพบติดเชื้อ เจ้าหน้าที่จึงไปรับตัวมารักษา ส่วนสามีของผู้ป่วยผลตรวจไม่พบเชื้อ
นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีผู้ป่วยชาวมุกดาหาร อายุ 52 ปี เดินทางมาทำธุระพร้อมกับสามีในกรุงเทพฯ โดยรถยนต์ส่วนตัวและเข้าพักที่บ้านในเขตบางบอน มีประวัติไปเดินห้างสรรพสินค้า นำรถยนต์ไปตรวจสภาพ และไปสักคิ้วให้กับลูกค้าที่ร้านเสริมสวยในเขตบางคอแหลม 3 ครั้ง วันที่ 10,11,13 มี.ค.64 ซึ่งจะต้องสอบสวนโรคเนื่องจากเป็นการสัมผัสใกล้ชิดที่เป็นความเสี่ยง
วันที่ 14 มี.ค.64 เดินทางออกจากบ้านพักเขตบางบอนกลับบ้านที่ อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร เริ่มมีอาการเจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ต่อมาวันที่ 16 มี.ค.64 เข้ารับการตรวจหาเชื้อที่ รพ.นิคมคำสร้อย จากนั้นกักกันตนเองในบ้าน และได้รับแจ้งผลตรวจติดเชื้อจึงถูกนำตัวไปรักษา โดยช่วงเวลาที่อยู่ใน กทม. และเดินทาง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา สำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 16 คน ผลตรวจไม่พบเชื้อ ให้กักตัวเอง 14 วัน
