เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ศรีสะเกษ – ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ที่ตั้งหนองน้ำโบราณ อ.กันทรลักษ์ ศรีสะเกษ แฉ “นายพุทธะ” อ้างเป็น “หลวงปู่องค์ดำ” เป็นคนมีวาทศิลป์พูดจาโน้มน้าวผู้หญิงเก่งและหอบเงินบริจาคพากลุ่มลูกศิษย์หญิงไปท่องเที่ยวครั้งละ 3-7 วันเป็นประจำ พร้อมสร้างรูปปั้นตนเองขึ้นมาอื้อและฉาวโฉ่ข่มขืนสาวท้อง ผู้นำหมู่บ้านสุดทนพฤติกรรมจึงไล่ตะเพิดพ้นหนองน้ำโบราณ
วันนี้ (22 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายพุทธะ เทพสุริยะจักรวาล อายุ 38 ปี ชาว จ.กระบี่ แต่งกายคล้ายพระแต่ผ้าเป็นสีดำ และอ้างตัวว่าเป็น “หลวงปู่พุทธะเทพสุริยะจักรวาล” หรือ “หลวงปู่องค์ดำ” ได้ข่มขืนสาวชาวบ้านเดียงตะวันออก 4 ครั้ง จนมีลูกสาวด้วยกัน 1 คนอายุประมาณ 4 ขวบ ในช่วงที่นายพุทธะได้มาปฏิบัติธรรมอยู่ที่หนองเดียงบ่อโบราณวังพญานาค ต.เวียงเหนือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และต่อมา นางสอน สาวชาวบ้านได้ให้กลับคำปฏิเสธว่าไม่เคยรู้จักกับนายพุทธะและไม่เคยถูกข่มขืน โดยอ้างว่าลูกสาวที่เกิดขึ้นมานั้นเป็นลูกที่เกิดแก่สามีเก่า และต่อมา นางสุคนธ์ อินทร์โสภา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 บ้านเดียงตะวันออกได้เรียกร้องให้นางสอนนำตัวลูกสาวอายุ 4 ขวบไปตรวจดีเอ็นเอ เพื่อเป็นการพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและเพื่อเป็นการให้ความเป็นธรรมแก่นายพุทธะ ตามข่าวที่ได้นำเสนอมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 บ้านเดียงตะวันตก ต.เวียงเหนือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นที่ตั้งของหนองเดียงบ่อโบราณวังพญานาค ต.เวียงเหนือ ที่นายพุทธะ เคยมาพักอยู่อาศัย โดยได้พบกับ นายสมจิตร เต่าลอย ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ซึ่งได้ร่วมกับคณะกรรมการหมู่บ้านดูแลหนองเดียงบ่อโบราณวังพญานาค ต่อมาเมื่อปี 2558 นายพุทธะ หรือหลวงปู่พุทธะเทพสุริยะจักรวาลได้เคยมาพักเพื่อปฏิบัติธรรมและมีชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านพากันมาให้ความเคารพศรัทธาจำนวนมาก
จากนั้นได้มีการก่อสร้างรูปปั้นพระพุทธรูปต่างๆ รวมทั้งรูปปั้นของนายพุทธะและศาสนวัตถุต่างๆ ขึ้นมาหลายอย่าง โดยที่บริเวณนี้เป็นที่สาธารณประโยชน์ เนื่องจากว่าเป็นบริเวณที่ชาวบ้านได้ค้นพบบ่อน้ำโบราณซึ่งเชื่อกันว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์และเป็นวังพญานาค ทำให้ประชาชนชาวศรีสะเกษและชาวจังหวัดใกล้เคียงพากันมาเยี่ยมชมและกราบไหว้เพื่อขอพรจำนวนมาก ทำให้มีเงินบริจาคเข้ามาเพื่อใช้ในการบำรุงรักษาปรับปรุงดูแลสถานที่แห่งนี้
นายสมจิตร เต่าลอย ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 บ้านเดียงตะวันตก กล่าวว่า ในช่วงที่นายพุทธะมาพักประจำอยู่ที่บริเวณข้างบ่อโบราณวังพญานาค นายพุทธะจะเป็นคนที่มีวาทศิลป์พูดจาเพราะโน้มน้าวจิตใจคนดีมาก โดยเฉพาะกับผู้หญิงนายพุทธะจะพูดจาอ่อนหวานมาก แต่กับผู้ชายจะพูดจาอีกแบบหนึ่ง ทำให้มีผู้หญิงมาเป็นแม่ยกจำนวนมาก นายพุทธะจะมีพฤติกรรมค่อนข้างแปลกมาก โดยในช่วงเวลากลางคืนจะชอบเดินรอบๆ บริเวณหมู่บ้าน ชอบดื่มน้ำมะพร้าวกับน้ำผึ้งวันละประมาณ 7-10 ลูก
ต่อมาผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ได้เข้ามาแจ้งพฤติกรรมแปลกๆ หลายอย่างของนายพุทธะให้ตนทราบ ตนจึงได้ให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านไปเฝ้าติดตามดูพฤติกรรมของนายพุทธะ โดยให้ไปนอนพักอยู่ที่ศาลาที่นายพุทธะพักอยู่ ซึ่งผู้ช่วยของตนได้ร่วมกับชาวบ้านช่วยกันสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นที่พักหลบแดดฝนของประชาชนที่มากราบไหว้บ่อน้ำโบราณวังพญานาค และคณะกรรมการหมู่บ้านได้นำเอาเงินที่ได้รับบริจาคมาใช้ในการก่อสร้างปรับปรุงบริเวณศาลาที่พัก
ต่อมา นายพุทธะ ซึ่งมาพักอยู่ที่แห่งนี้ร่วมกับคณะลูกศิษย์เห็นว่ามีเงินบริจาคเข้ามาค่อนข้างมาก ได้นำเอาเงินบริจาคนำพาลูกศิษย์ซึ่งส่วนมากเป็นผู้หญิงไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ครั้งละ 3 วัน 7 วัน และนายพุทธะไม่พอใจที่เห็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านไปเฝ้าจับตาดูพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด เนื่องจากพวกตนเกรงว่า นายพุทธะจะทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่หมู่บ้านของพวกตน
ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 บ้านเดียงตะวันตก กล่าวต่อว่า ต่อมามีการก่อสร้างรูปปั้นของนายพุทธะขึ้นมาในรูปแบบต่างๆ ซึ่งพวกตนเห็นว่าไม่ถูกต้อง ต่อมาปี 2560 มีข่าวหนาหูว่านายพุทธะได้ไปข่มขืนหญิงสาวชาวบ้านเดียงตะวันออกขณะที่สาวชาวบ้านได้มาโกนผมนั่งปฏิบัติธรรมเพราะเชื่อตามที่นายพุทธะกล่าวอ้างว่า หญิงชาวบ้านกำลังมีเคราะห์ใหญ่ จนทำให้มีลูกด้วยกัน 1 คน
พวกตนประกอบด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และกรรมการหมู่บ้านจึงไม่ทนอีกต่อไป ได้พากันไปขอให้นายพุทธะออกไปจากที่บริเวณหนองน้ำโบราณแห่งนี้ ซึ่งนายพุทธะได้ยอมออกไป แต่ว่ายังมีการแวะเวียนกลับมายังที่แห่งนี้อยู่หลายครั้ง
“อยากฝากถึงพี่น้องประชาชนทุกท่านว่า ไม่ควรที่จะไปหลงเชื่องมงายกับคำสอนของนายพุทธะที่มีวาทศิลป์ในการพูดโน้มน้าวคนสูงมาก ควรที่จะเชื่อฟังและปฏิบัติตามพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในฐานะที่เป็นพุทธศาสนิกชนจึงจะถูกต้อง” นายสมจิตร เต่าลอย ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 บ้านเดียงตะวันตก กล่าวในตอนท้าย