เช้ามืดของวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ พลตำรวจตรี คิรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รองผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วย พลตำรวจตี สันติ เหล่าประทาย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ, นายสำรวยเกษกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้ร่วมกันเป็นประธานในการปล่อยแถวปิดล้อมตรวจค้น กวาดล้างยาเสพติดและอาชญากรรม พร้อมกัน ทั้ง 22 อำเภอ 37 สถานีตำรวจ โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันปราบปรามยาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษ ชุดสืบตำรวจภูธรภาค3 ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ คณะ อสม. ปกครองอำเภอทุกอำเภอ เจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจตระเวนชายแดน สารวัตรทหาร หรือ สห.
โดยแยกการปล่อยแถวออกเป็น 4 จุดใหญ่ๆ คือ จุดแรกที่หน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ, จุดที่สองที่อำเภอราษีไศล, จุดที่สามอำเภอขุขันธ์ และจุดที่สี่อำเภอกันทรลักษณ์ เพื่อให้ครอบคลุมทุกอำเภอทุกตำบลและทุกหมู่บ้าน พร้อมกันนี้ยังมีการกำชับห้ามข่าวรั่วไหลและให้มีผลการจับกุมเชิงรุก
โดยผลงานที่ผ่านมาจังหวัดศรีสะเกษถือว่าอยู่ในลำดับต้นๆ ของผลการกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหา 3 พันกว่าคน ในจำนวน 2,800 กว่าคดี แม้จะเป็นรายเล็กรายน้อยแต่ก็ถือว่ามีผลการปราบปรามได้อย่างชัดเจน เพราะเนื่องจากจังหวัดศรีสะเกษไม่มีแหล่งการผลิต ส่วนใหญ่ยาจะถูกนำมาจากพื้นที่รอบนอกเข้ามาพักเพื่อจำหน่ายและเสพ จากนั้นทุกภาคส่วนได้ร่วมกันประกอบพิธีปล่อยแถวเพื่อปิดล้อมตรวจค้นจับกุมต่อไป
- ยอดบริจาคช่วยสองแม่ลูกป้อนข้าว-พุ่ง5.1ล้าน
- “ชัยศิริ”นั่งนายกอบจ.อุตรดิตถ์สมัย4-ลุยแก้ภัยแล้ง
- วอนช่วยเหลือน้อง 84 ดูแลพี่สาว 88 ปีตาบอด 2 ข้าง
และในเวลา 07.05 น. พันตำรวจเอก เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากชุดสืบที่สนธิกำลังปล่อยแถวเข้าปิดล้อม ตรวจค้น และจับกุม แจ้งเข้ามาว่าได้จับกุมผู้ต้องหาที่มียาบ้าไว้ในครอบครองที่หมู่บ้านก้านเหลือง อำเภอเมืองศรีสะเกษ จึงรายงานให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ และรองผู้บัญชาการภาค 3 ได้ทราบก่อนที่จะเดินทางออกไปตรวจสอบ พบผู้ต้องหาชาย ทราบชื่อภายหลัง นายชัยวุฒิ เนาวบุตร อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 40 บ้านก้านเหลือง หมู่ที่ 9 ตำบลหมากเขียบ อำเภอเมืองศรีสะเกษ พร้อมกับตรวจค้นเจอยาบ้าจำนวน 49 เม็ด สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร และอุปกรณ์การเสพยา ขณะเดียวกันยังพบอาวุธปืนลูกซองยาวและอาวุธปืนไทยประดิษฐ์อีกรวม 2 กระบอก จึงตรวจยึดเก็บรวบรวมหลักฐานนำตัวส่งร้อยเวรสอบสวน ขยายผลจากโทรศัพท์มือถือและบัญชีเงินฝากเส้นทางการซื้อขายผ่านออนไลน์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พลตำรวจตรี คิริศักดิ์ ตันตินวะชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า แม้ว่าจะอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของสถานการณ์โรค โควิด-19 แต่การแพร่ระบาดของยาเสพติดก็ไม่ได้ลดลง การแพร่ระบาดมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นด้วยซ้ำไป เนื่องจากว่ายังมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นของการแพร่ระบาดยาเสพติด การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 จะไปกระทบเรื่องเศรษฐกิจ แต่ยาเสพติดมีแนวโน้มที่จะมีราคาถูกลง เพราะคนเสพเริ่มไม่มีเงินซื้อ แต่ความต้องการเพิ่มมากขึ้น จึงต้องมีการปรับแผนกลยุทธ์ในการวางแผนเข้าตรวจค้นกวาดล้างดำเนินคดี โดยเฉพาะในระดับรากหญ้าที่ส่งผลกระทบกับพี่น้องประชาชนเด็กและเยาวชนโดยตรง ซึ่งวันนี้จะต้องดำเนินการให้ชัดเจน ขอพี่น้องประชาชนที่แจ้งเบาะแสเข้ามาทราบแหล่งผลิต แหล่งจำหน่ายพร้อมกับการปกปิดข้อมูลผู้ที่แจ้ง ผู้ที่ให้ข้อมูลเข้ามา จะต้องถือเป็นความลับสุดยอดของเจ้าหน้าที่ทุกนาย พร้อมดูแลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้แจ้งด้วย
เรื่องโดย พงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์ | ภาพโดย พงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์