เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (Video Conference) ทั้งนี้ ที่ประชุมมีเรื่องรับทราบ ผลการดำเนินการของคณะอนุกรรมการและคณะทำงานภายใต้คำสั่งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน ผลการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรณียกเลิกโครงการก่อสร้างเขื่อนท่าแซะ จ.ชุมพร และโครงการก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น จ.แพร่ กรณีปัญหาที่ราชพัสดุหนองน้ำขุ่น จ.ขอนแก่น กรณีปัญหาที่ราชพัสดุทุ่งยาว ท้องที่หมู่ 1 ต.ชุมพล อ.ศรีนครินทร์ และหมู่ 7 ต.โคกชะงาย อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง กรณีปัญหาผู้ได้รับผลกระทบจากแผนปฏิบัติการทวงคืน (พลิกฟื้น) ผืนป่าชายเลน ตามนโยบายทวงคืนผืนป่าชายเลน ท้องที่หมู่ 9 บ้านปากน้ำท่าเคย ต.ท่าเคย อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี กรณีปัญหาโครงการฝายหัวนา จ.ศรีสะเกษ กรณีปัญหาโครงการฝายราษีไศล จ.ศรีสะเกษ และขอรับการสนับสนุนโครงการแก้ไขผลกระทบจากปัญหานโยบายของรัฐ และฟื้นฟูเศรษฐกิจและชุมชนชนบทของสมัชชาคนจน
ที่ประชุมมีเรื่องเพื่อพิจารณา ได้แก่ การแก้ไขปรับปรุงองค์ประกอบคณะอนุกรรมการประสานงานเร่งรัดติดตามการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดิน อ.ปากน้ำโพ อ.พยุหคีรี อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ พ.ศ.2479 ทับที่ดินทำกินของราษฎร กรณีปัญหาโครงการอ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชร จ.ชัยภูมิ กรณีปัญหาที่สาธารณประโยชน์โคกหนองเหล็ก จ.สุรินทร์ กรณีปัญหาราษฎรได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่า กรณีป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ (บ้านเก้าบาตร) ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ และกรณีปัญหาการตัดโค่นต้นยางพาราเพื่อปลูกใหม่ในพื้นที่ จ.ตรัง จ.พัทลุง และ จ.นครศรีธรรมราช
พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า การประชุมในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของสมัชชาคนจน และเร่งรัดติดตาม การให้ความช่วยเหลือสมาชิกสมัชชาคนจนที่ได้รับความเดือดร้อนให้ได้ข้อยุติ หากประเด็นปัญหาใดที่ต้องใช้ระยะเวลาในการแก้ไขปัญหาขอให้สร้างการรับรู้ชี้แจงทำความเข้าใจแก่ประชาชน เพื่อป้องกันปัญหาความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างรัฐบาลกับประชาชน ขอให้ทุกหน่วยงาน ได้ร่วมกันปฏิบัติงานกันอย่างเต็มที่เต็มความสามารถ แม้ว่าต้องมีการปรับรูปแบบการทำงานให้สอดคล้องกับ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีอยู่ในขณะนี้ และให้เร่งรัด ดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน รวมถึงรายงานผลให้คณะกรรมการทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว