21 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ที่ ถนนโชติพรรณ ตำบลเมืองใต้ หน้าวิทยาลัยเกษตร อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ได้เปิดเป็นถนนสายวัฒนธรรมวันเสาร์ โดย สภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ นายวิทยา วิรารัตน์ ประธานสภาวัฒนธรรมฯ ได้จัดโครงการ “ถนนสายวัฒนธรรม” เป็นครั้งแรกเพื่อเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชน พ่อค้า แม่ค้า น้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตกงาน ประสบปัญหาสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ไม่มีรายได้ ได้นำสินค้าที่ตนเองทำขึ้นมาเอง ตามภูมิปัญญาของชุมชน ตามประเพณีของพื้นถิ่น ทั้งการรวมกลุ่มกันทำนำมาขาย หรือทำเองหาขายเอง
วันนี้ได้มีตลาดเพื่อการจำหน่าย สร้างรายได้ในการนำไปหล่อเลี้ยงครอบครัว รวมทั้งตนเอง ตามคำโบราณที่กล่าวว่า “ไม่มีความยากจนในหมู่คนขยัน” ทำมาหากินโดยสุจริต พิเศษสุดคือ ได้แนะนำให้ทั้งพ่อค้า แม่ค้า แต่งกายด้วยชุด 4 เผ่าไทยศรีสะเกษ ไม่ว่าจะเป็นชุดเผ่าส่วย, เขมร, ลาว และเผ่าเยอ ก็ได้ ขอให้แสดงออกถึงความเป็นไทยศรีสะเกษ พร้อมยังได้มอบรางวัลเป็นเงินสด แก่ผู้ที่แต่งกายทั้งมาจำหน่ายขายสินค้า หรือมาเดินเลือกซื้อสินค้าด้วย โดยในครั้งแรกวันนี้ได้มี นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เดินเป็นประธานในการเปิดถนนสายวัฒนธรรม มาให้กำลังแก่พ่อค้า แม่ค้า น้องๆ เยาวชนคนขายสินค้า พร้อมกันนี้ยังได้นำการแสดงทางวัฒนธรรมของชน 4 เผ่าศรีสะเกษ นั้นก็คือ รำกลองตุ้ม ของชนเผ่าลาว ที่สวยงาม อ่อนช้อย อลังการ เล็บนิ้วมือยาวเป็นวา ยังรำได้สวย
นายวิทยา วิรารัตน์ ประธานสภาวัฒนธรรม เปิดเผยว่า จังหวัดศรีสะเกษ มี 4 ชนเผ่า อันได้แก่ ชนเผ่าส่วย, เขมร, ลาว และเยอ ในแต่ละชุมชนก็จะมีประเพณีที่โดดเด่นในแต่ละชุมชน อย่างเช่นในวันนี้ เป็นวันแรกของการเปิดตลาด ถนนสายวัฒนธรรม ก็จะนำเอา ประเพณีการรำกลองตุ้ม ของชนชนเผ่าลาว จากบ้านหัวนา อำเภอกันทรารมย์ มาแสดงโชว์ และในทุกวันเสาร์ก็จะได้นำประเพณีสำคัญๆ ที่โดดเด่นในแต่ละชุมชน นำมาแสดงโชว์ให้ทุกคน นักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวมาชมตลาดถนนสายวัฒนธรรมได้ชมกัน นอกจากนั้นก็จะมีอาหารพื้นบ้านในแต่ละชนเผ่า เช่น วันนี้ชนเผ่าเขมร ก็จะนำ ขนม “แปร กระ ชัง” เป็นชื่อเรียกตามภาษาถิ่นของชุมชน เป็นขนนที่ทำจากแป้งนำมาปั้นกลมๆ ยัดใส่ด้วยมะพร้าวและน้ำตาล ก่อนนำมาทอด อร่อยนมาก หากินยาก หากไม่มีประเพณีเซ่นไหว้ผี ชาวบ้านก็จะไม่ทำ แต่ในทุกวันเสาร์ สามารถมาหาซื้อทานได้ในถนนสายวัฒนธรรมที่ศรีสะเกษ
ด้าน นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จากคำว่าทุน ไม่ใช่แค่ทุนทางสังคม ทางด้านเงินตรา แต่หมายรวมถึง ทุนทางวัฒนธรรมด้วย ที่จะสามารถนำมาสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน เพราะหากไม่นำทุนในสิ่งเหล่านี้ออกมาใช้ ทุนนั้นก็จะเริ่มหดหายไปในที่สุด คนรุ่นหลังๆ ก็จะไม่ทราบว่า ชุมชน หมู่บ้าน รากแก่นของปู่ย่า ตายาย ของตน มีทุนอะไรทิ้งไว้ให้เป็นมรดกบ้าง ถนนสายวัฒนธรรม ของสภาวัฒนธรรมทุกวันเสาร์นี้ ก็จะกลายเป็นการนำทุนทางวัฒนธรรมออกมาใช้ ในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้กับชุมชน ให้กับทุกคนที่เข้ามา ก็ขอแสดงความชื่นชม และดีใจที่จะมีผู้ที่สืบทอดทุนหล่านี้ต่อไป โดยเฉพาะพบเห็นน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่มาสร้างอาชีพ มาสร้างรายได้ ในถนนสายวัฒนธรรมแห่งนี้ ศรีสะเกษ รอดได้ทุกสถานการณ์การ เพราะสุดท้ายเมื่อทุกคนมีความรัก ความสามัคคีกัน ก็จะย้ำคำว่า “อะไรอะไร…ก็ดี…ที่..ศรีสะเกษ” ได้เป็นอย่างดี
ปิดท้ายด้วยการชมการแสดง “รำกลองตุ้ม” ของชนเผ่าลาว จากหมู่บ้านหัวนา ตำบลหนองแก้ว อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่นำการแต่งกายด้วยชุดประจำเผ่า สวมเล็บที่ยาวที่สุด ทุกนิ้ว ก่อนมาร่ายรำอย่างอ่อนช้อย สวยงาม เข้ากับจังหวะของการตีกลองตุ้มๆ ๆ ๆ สลับกับเสียงการตีฉาบใหญ่ ห้อยแขวนไว้บนบ่าของผู้ตีทั้งคู่ ตีไปพร้อมๆ กัน ด้วยจังหวะที่เป็นภูมิปัญญา ไม่มีเครื่องดนตรีอย่างอื่น มีแค่กลองตุ้ม กับฉาบใหญ่ ก็ร่ายรำได้ ซึ่งทุกคนจะเข้าใจในจังหวะ ในท่วงท่าที่ร่ายรำกันเอง ว่ารำไปท่าไหน จะจบตอนไหน พร้อมเพรียง หาชมได้เฉพาะช่วงมีเทศกาลงานบุญของชนเผ่าลาว แต่วันนี้มาชมกันได้ที่ถนนสายวัฒนธรรมทุกวันเสาร์ที่ศรีสะเกษ