เจ้าคณะจังหวัดฝ่ายธรรมยุต พร้อมกับสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ ลงพื้นที่ตรวจสอบวัดป่า หลังมีคลิปคำสอนเผยแพร่หลุดออกมาอนุญาตให้ผู้ปฏิบัติธรรมเสพเมถุนได้ เพราะเชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งในการทำสมาธิเพื่อให้หลุดพ้นจากกรรม
ร้องสำนักปฏิบัติธรรม นำญาติโยมเปล่งเสียงร้องตามปีนักษัตร
เสียงของการเทศนาบางช่วงบางตอนของพระรูปหนึ่ง ที่มีหลักคำสอนในการปฏิบัติทำที่ผิดเพี้ยน จากหลักคำสอนตามหลักพระพุทธศาศาสนา จนมีเสียงวิพากษ์ วิจารณ์ ว่าเหมาะสมหรือไม่
ที่พักสงฆ์ วัดป่าเนื้อนาบุญ ตำบลโพธิ์ศรี อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ คณะสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย พระวินัยเมธี เจ้าคณะจังหวัด (เจ้าคณะอำเภอปรางค์กู่ เจ้าคณะอำเภอขุขันธ์ ได้เดินทางไปพบกับพระหัวหน้าสำนักสงฆ์ เพื่อสอบถามเรื่องราวที่ได้มีกระแสข่าวออกไป เป็นคลิปวิดีโอของทางวัดขณะที่ พระหัวหน้าที่พักสงฆ์ ได้ทำการเทศนาอบรมสั่งสอน ญาติโยมที่เข้ามาปฏิบัติธรรม กว่า 30 คน ในหลักธรรมคำสั่งสอน
ซึ่งได้มีข้อผิดเพี้ยนออกไปโดยเน้นให้สามารถเสพเมถุนขณะปฏิบัติธรรมได้ ประกอบกับได้มีสามีของผู้ที่เข้ามา ปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัด พอภรรยาเดินทางกลับบ้านมีอาการที่เปลี่ยนไป โดยเชื่อว่าการเสพเมถุนขณะปฏิบัติธรรมทำให้มีสมาธิและได้บุญเพิ่มขึ้น ขณะที่เข้าไปดูคลิปที่ถ่ายไว้ใน Facebook ของทางวัด คำสั่งสอนที่เทศนาของหัวหน้า ที่พักสงฆ์ ที่ถูกถ่ายไว้มีคำพูดที่ล่อแหลมไปในทางผิดเพี้ยนเช่นกัน
โดยภายหลังจากมีการพูดคุยหัวหน้าที่พักสงฆ์ วัดป่าเนื้อนาบุญ พบกับ หลวงตากรันยา ได้ชี้แจงอ้างว่าในการเทศนาคำสั่งสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ให้โยมปฏิบัติตามเน้นศีล 5 ส่วนศีลข้อ 3 กาเม สุมิจฉา นั่น คือแปลความหมายได้ว่า ห้ามประพฤติผิดในกาม ผิดสามี ผิดภรรยาผู้อื่น หากมีคู่อยู่แล้ว ไม่ได้ห้ามในการเสพเมถุน มีความสุขทางกามอารมณ์กับคู่รักของตนเองที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งตนก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นความผิด และไม่ผิดศีล ไม่ได้ห้ามว่าถือศีล นุ่งขาวห่มขาว แล้วห้ามนอนกับสามีภรรยาตนเอง ซึ่งอาจจะทำให้ครอบครัวแตกแยกได้
โดยพระวินัยเมธี เจ้าคณะจังหวัด ได้แนะนำให้หัวหน้าที่พักสงฆ์ดังกล่าวได้เปลี่ยนคำเทศนาบางช่วงบางตอนที่ส่อไปในทางที่ล่อแหลม หรือผิดเพี้ยนจากคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า หากผู้เข้าใจก็ดีหากผู้ไม่เข้าใจก็จะเข้าใจผิด หากละเว้นได้ก็ควรจะละเว้นในการขยายคำสั่งสอนที่ผิดเพี้ยนไป ซึ่งหัวหน้าที่พักสงฆ์ก็ยอมรับในคำตักเตือนและจะปฏิบัติตาม โดยขณะนี้ที่ พักสงฆ์แห่งนี้ มีหัวหน้าคณะสงฆ์อยู่เพียงองค์เดียว นอกนั้นเป็นผู้ปฏิบัติธรรมซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ราว 30 คน และโดยปกติจะห้ามบุคคลภายนอกผ่านเข้าไปในที่พักสงฆ์โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยอ้างว่าเป็นการรบกวนผู้ปฏิบัติธรรม
ล่าขบวนการต่อวีซ่าต่างชาติ ใช้ศาสนาบังหน้า