“นนท์” อานนท์ หงษ์กลาง โชว์ลีลาบิดแหลก ล้มแชมป์โลก “บุ๊ค” ณัฐกร ภูภักดี จากฉะเชิงเทรา กระชากแชมป์เจ็ตสกีจีพี ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 ให้กับสมุทรสาคร เจ้าตัวปลื้ม ร่วมกีฬาแห่งชาติหนแรกประสบความสำเร็จ คว้า 2 เหรียญทองกลับบ้าน ยกความดีความชอบให้ทีมช่าง ที่ทำงานอย่างหนัก บึ่งรถ 600 กม.จากสมุทรสาคร มาช่วยปรับแต่งเรือจนพร้อมใช้งาน รับก่อนมาเล่นเจ็ตสกี ชื่นชอบกีฬาความเร็วมากๆ โดยเคยผ่านการแข่งทั้งมอเตอร์ครอส รถดริฟท์ และรถเซอร์กิต รับเคยเป็นสตั๊นไบค์ ลงแข่งขันโชว์ท่ายากมอเตอร์ไซต์ ยันตอนนี้เลิกแล้ว เพราะอันตรายสุดๆ ลั่นอยากไปให้สุดทางกับกีฬาเจ็ตสกี เป้าแรกหวังติดธงลุยเอเชียนเกมส์ 2022 ที่จีน เดือนกันยายน
การแข่งขันเจ็ตสกี ในกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 ที่สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมด็มเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ 80 พรรษา (เกาะห้วยน้ำคำ) เมื่อ 9 มี.ค.65 มีชิงชัย 2 เหรียญทอง โดยไฮไลต์อยู่ที่การแข่งขันประเภทสกีจีพี ซึ่งมีนักกีฬาเข้าร่วม 10 คน โดยกติกาแบ่งนักกีฬาออกเป็น 2 สาย สายละ 5 คน แข่งแบบพบกันหมด เพื่อหานักกีฬาที่มีผลงานดีสุดในอันดับ 1 และ 2 เข้าไปแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ โดยผลปรากฎว่า ณัฐกร ภูภักดี จากฉะเชิงเทรา เข้าเป็นที่ 1 สายเอ โดยมี ชวลิต เกื้อจรูญ จากชลบุรี เข้าเป็นที่ 2 สายเอ ส่วนสายบี อานนท์ หงษ์กลาง จากสมุทรสาคร เข้าเป็นที่ 1 และมี นันทวัฒน์ สิงห์อุไร จากกรุงเทพฯ เข้าเป็นที่ 2
รอบชิงชนะเลิศ เป็นการโคจรเข้ามาพบกันระหว่าง “นนท์” อานนท์ หงษ์กลาง นักบิดวัย 22 ปี จากสมุทรสงคราม ดีกรีแชมป์ประเทศไทย ประเภทเรือยืน ที่ลงแข่งขันกีฬาแห่งชาติแรก กับ “บุ๊ค” ณัฐกร ภูภักดี วัย 31 อดีตแชมป์ประเทศไทยเรือยืน ที่มีดีกรีเป็นแชมป์โลก โดยรอบชิงชนะเลิศ แข่งขัน 2 ใน 3 โมโต ใครชนะ 2 โมโตก่อนคว้าแชมป์ไปครองทันที
ผลการแข่งขันในโมโตแรก เป็น “เจ้านนท์” ที่ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม กุมความได้เปรียบ ก่อนซิ่งผ่านธงหมากรุก เก็บชัยในเรซแรกได้ ขึ้นนำ 1-0 เข้าสู่โมโตที่สอง ยังเป็นหนุ่มนักบิดวัย 22 จากสมุทรสงคราม ที่ทำได้ดีกว่า ซิ่งเข้าเส้นชัยได้ก่อน ทำให้เอาชนะไป 2-0 โมโต คว้าเหรียญทองเจ็ตสกีจีพีไปครอง ซึ่งก็นับเหรียญทองที่สองของเจ้าตัวด้วย หลังก่อนหน้าคว้าเหรียญทองรายการ สกี 1500 สแตนดาร์ดชาย ด้านเหรียญทองแดงเป็นของ นันทวัฒน์ สิงห์อุไร จากกรุงเทพฯ กับ เชาวลิต เกื้อจรูญ จากชลบุรี
หลังการแข่งขัน “เจ้านนท์” เปิดใจหลังการแข่งขันว่า ดีใจที่สามารถคว้า 2 เหรียญทองให้กับจังหวัดสมุทรสาครได้ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งแรก เกมรอบชิงตื่นเต้นมากๆ เพราะก่อนแข่ง 1 วันเรือมีปัญหา ทำให้คุณพ่อและทีมช่างรีบเดินทางมาจากบ้านเพื่อมาปรับแต่งเรือใหม่ ซึ่งเรือก็เสร็จพร้อมใช้งานก่อนการแข่งขันจริงๆไม่กี่ชั่วโมง ซึ่ง 2 เหรียญทองที่ทำได้ก็ถือว่าเกินเป้าอย่างที่หวัง เพราะก่อนลงสนาม ตนหวังเอาไว้ว่าอยากจะชนะสัก 1 รายการ
“ก่อนแข่งก็กังวลครับว่าเรือจะมีปัญหาก่อนการแข่งขัน เพราะเรือเพิ่งปรับแต่งเสร็จ ทำให้ไม่ได้ลองขี่เพื่อทดสอบ ก็กลัวว่าพอแข่งจริงเรือจะมีปัญหาและแข่งขันไม่จบ เพราะก่อนหน้านี้ในการแข่งขันคิงส์คัพ ก็เพิ่งมีเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ซึ่งผมก็แข่งขันไม่จบ ต้องขอบคุณทีมงาน ทีมช่างทุกคน ที่ทำงานกันอย่างหนักก่อนการแข่งขัน ซึ่งถ้าไม่มีทีม ผมเองก็คงไม่ได้ลงแข่งขัน และคงไม่สามารถคว้าเหรียญทองได้”
เจ้านนท์ ยังเผยอีกว่า เมื่อปี 2019 ตนมีโอกาสได้ติดทีมชาติไทยชุดทำศึกเอเชียนบีชเกมส์ 2020 ที่จีน ทว่าด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การแข่งขันถูกเลื่อนออกไป ทำให้ตนยังไม่ได้ไปแข่งขัน ส่วนที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยลงแข่งขันในฐานะนักกีฬาทีมชาติเลยสักครั้ง ตนก็หวังว่าในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ 2022 ที่จะมีขึ้นในเดือนกันยายนนี้ ที่จีน ตนจะได้โอกาสเป็นตัวแทนทีมชาติไทยไปทำการแข่งขัน ส่วนจะได้ไปหรือไม่ได้นั้น ก็ต้องอยู่ที่ฟอร์มและผลงานการคัดตัว โดยในการคัดสนามแรก จะมีขึ้นในเดือนเมษายนนี้
“นนท์” อานนท์ หงษ์กลาง เจ้าของ 2 เหรียญทอง ในกีฬาแห่งชาติ ยังเผยอีกว่า ก่อนหน้ามาเป็นนักกีฬาเจ็ตสกี ตนเองเป็นนักกีฬาโมโตครอสมาก่อน รวมถึงมาเป็นสตั้นไบค์ ที่ยกล้อเล่นท่ายากมอเตอร์ไซต์ รวมถึงขับรถแข่งเซอร์กิต และรถดริฟท์ ซึ่งการที่มีโอกาสเล่นกีฬาพวกนี้ก็เพราะว่าคุณพ่อที่เป็นนักกีฬาอยู่แล้วชักชวนบวกกับตนเองชอบด้วย โดยครั้งหนึ่งก็เคยแข่งขันสตั๊นไบค์ในระดับทวีปมาก่อน ซึ่งรอบนั้นได้อันดับที่ 3 กลับมา แต่ด้วยความที่ช่วงหลังมาเล่นเจ็ตสกี จึงต้องเล่นกีฬาผาดโผนแบบนั้นให้น้อยลง เพื่อมาฝึกซ้อมเจ็ตสกีให้มากขึ้น ซึ่งเทคนิคและทักษะบางอย่าง อย่างการทรงตัวก็ถือว่ามีส่วนช่วยในการขับเจ็ตสกีได้เหมือนกัน
Add friend ที่ @Siamsport